ตอนช่วงโควิดที่ผ่านมา หลายคนต้อง work from home หลายคนอยู่บ้านออกไปไหนไม่ได้ การสรรหาร้านอาหารใหม่ ๆ ที่พร้อมจัดส่งผ่านเดลิเวอรี่ นับเป็นอีกกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนานให้กับชีวิตช่วงนั้นได้ …..และ รสดีเด็ด เดอะสเต็กเฮ้าส์ ก็เป็น 1 ในร้านที่ lookalife ได้ลองสั่งแบบเซ็ทมาทานที่บ้านมีทั้งสเต็ก ข้าว เครื่องเคียง ปริมาณแบบจุใจมาก และอร่อยด้วย จนคิดว่าพอโควิด-19 ซาลงจะแวะไปลองทานที่ร้านดูสักครั้ง และก็อยากรู้เหมือนกันว่า ระหว่างกินที่บ้านกับทานที่ร้านแบบไหนอร่อยกว่ากัน
สำหรับร้าน รสดีเด็ด เดอะสเต็กเฮ้าส์ ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ใกล้ตลาดสามย่าน สำหรับคนที่ใช้การเดินทางแบบสาธารณะ ให้ลงสถานี MRT สามย่าน ออกที่ทางออกหมายเลข 2 แนะนำให้เดินทะลุเข้าอุโมงค์สามย่านมิตรทาวน์แล้วเดินย้อนไปทางบรรทัดทอง โดยจะต้องเดินผ่านร้านรสดีเด็ดที่เป็นร้านก๋วยเตี๊ยว+ปื้งย่างก่อน และเดินมาอีกนิดจะเจอเป็นร้านรสดีเด็ดสเต็กเฮ้าส์ คนที่ขับรถมาทางร้านแนะนำว่าให้จอดที่ตลาดสยามย่าน หรือตอนนี้แนะนำว่าสะดวกยิ่งไปอีกถ้าจอดที่สามย่านมิตรทาวน์ 😀
เมนูนอกจากเนื้อที่เป็นเมนูยอดนิยมแล้ว สำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อทางร้านก็มีพอร์คช็อป และโทมาฮ็อคเนื้อไว้บริการ รวมถึงสเต็กปลาอย่างปลากะพง หรือแซลมอน หรือประเภทซุป สลัด เครื่องเคียง เรียกน้ำย่อย สปาเก็ตตี้ และอาหารไทย ก็เรียกว่ามีในเมนูให้เลือกเยอะเช่นเดียวกัน
สำหรับซอสที่กินคู่กับสเต็กเราจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะเลือกมาชิมทั้ง 4 อย่างเลยก็ได้นะ ในเมื่อรอบนี้กินที่ร้านครั้งแรก ขอลองทั้ง 4 แบบเลยละกัน (จากภาพดูวนขวา) ได้แก่ ซอสเห็ด / ซอสไวน์แดง / ซอสพริกไทยดำ และน้ำจิ้มแจ่ว สำหรับเรานะ อันดับ 1 ให้ซอสเห็ดเลย กินกับเนื้ออร่อยมาก ส่วนใครชอบแบบไทยๆ ตัวจิ้มแจ่วก็จัดจ้านใช้ได้เลย
จานแรกเรียกน้ำย่อยของจริงอย่าง “ซีซาร์สลัด” น้ำสลัดของที่นี่จะมีรสต่างกับร้านอื่น ๆ คือ มันจะไม่เข้มมาก มีความเค็มอ่อนๆ แต่ก็นับว่าอร่อยมาก โดยเฉพาะตัวพาเมซานชีสทีโรยมาบนด้านหน้าสลัด คือดีเลยละ
จานถัดไปเป็นเครื่องเคียง “หน่อไม้ฝรั่งผัดเนยกระเทียม” ถูกใจคอกระเทียมเหมือนกันนะ เพราะโรยมาอย่างจัดเต็ม หอมเนย แต่จานนี้ขอให้คะแนนพอใช้ได้ เพราะวันที่ไปกินเหมือนตัวหน่อไม้ฝรั่งครึ่งหนึ่งจะแก่ไปนิด เคี้ยวแล้วเหนียว-_-
และในที่สุด…เนื้อจานแรกก็มา จานนี้เป็นเนื้อ Serlion Dry-Aged แบบราคา 190 บาท / 100 g. (สั่งมา 300 g.) โดยเราสั่งแบบ Rare เนื้อเซอร์ลอยจะมีสีจัดกว่าริบอาย กลิ่น และรสเนื้อแรงกว่าตัวอื่น เคี้ยวเยอะกว่า แต่ไม่เหนียว ผิวของเนื้อถูกปรุงรสมาแล้ว แต่เพราะความเยอะของเนื้อตัวนี้นี่แหละ ทำให้ตอนกินกับซอสที่มีรสจัด มันอร่อยมาก!
ซูมหลังหั่นแบบลูกเต๋า จิ้มกับซอสพริกไทยดำ หรือซอสไวน์แดง 10 เต็ม 10!
จานถัดมา เป็น Ribeye Dry-Aged แบบราคา 190 บาท / 100 g. (สั่งมา 300 g.) จานนี้เป็นแบบ Medium-Rare เนื้อออกสีชมพู รสและกลิ่นเบากว่าแบบเซอร์ลอย แต่นุ่มจริง เพราะขนาดบางชิ้นที่ถูกหั่นมาหนากว่าปกติ คิดว่าตอนเคี้ยวมันจะเหนียว แต่พอเคี้ยวเข้าไปแล้วมันนุ่มจริงแฮะ
เนื้อริบอายจิ้มกับซอสเห็ด 10 เต็ม 10
ถ้าดูจากภาพในบทความนี้ อาจจะสงสัยว่าทำไมร้านนี้ถึงเสิร์ฟมาแบบเตาเหมือนพวกเตาที่ไว้เสิร์ฟปลากะพงนึ่งมะนาว คำตอบคือ ภายในเตามีการใส่ไฟอ่อนๆ เพื่อให้ตัวถาดเนื้อ มีความร้อนอ่อนๆ ตลอดเวลา ด้วยเหตุผลที่ว่าสเต็กเนื้อถ้าโดนอากาศเย็นสักพักจะจับตัวเป็นไข ทำให้ความอร่อยลดลง จึงเลือกเสิร์ฟเป็นแบบเตาเพื่อให้เนื้อในถาดมีความร้อนตลอดเวลานั่นเอง
ตอนแรกกะจะสั่ง Tendelion กับเมนูอื่นๆ มาลองเพิ่มเติม แต่ทั้งหมดนี้เรียกว่าสองคนจุกจ้ะ! ไม่ไหวแล้ว สรุปมื้อนี้ราคารวม 1,600 นิดๆ ร้านรสดีเด็ดไม่ได้คิด Service Charge 10% และ VAT 7% นะคะ ส่วนที่ถามกับตัวเองว่า แล้วระหว่างการกินที่ร้าน กับกินที่บ้านแบบไหนอร่อยกว่า ขอบอกเลยว่ากินที่ร้ายอร่อยกว่าเยอะเลย คอนเฟิร์ม! ดูรายละเอียดของร้านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/RoddeededTheSteakHouse/ หรือโทรสอบถามได้ที่ 082 220 8869 ร้านเปิดตั้งแต่
11:00 AM – 12:00 AM
บทความที่คล้ายกัน:
Tora Yakiniku x Cafe บุฟเฟต์พรีเมี่ยมย่านลาซาล เนื้อย่าง อาหารญี่ปุ่น ของหวานครบ!
Shinya Shokudo ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดลับ ใต้สถานี BTS ทองหล่อ